ขจัด คราบ บน ผ้า ขาว
ถ้าคราบติดแน่นทนนานให้ใช้ฟองน้ำชุบแอมโมเนียซับ เป็นวิธีที่เหมาะมากโดยเฉพาะกับคราบสารคัดหลั่งจากร่างกายคน เช่น เลือด เหงื่อ และฉี่ [24] พอใช้ฟองน้ำที่มีแอมโมเนียซับทั่วคราบแล้ว ก็ซักได้ตามปกติ คำเตือน ก่อนใช้ทุกวิธีที่ว่ามา ต้องทดลองใช้น้ำยาที่ผ้าแค่เล็กน้อยก่อน ถ้าจะใช้สารเคมีแรงๆ ต้องทำในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก สวมถุงมือยางเสมอเวลาใช้น้ำยาฟอกขาวหรือแอมโมเนีย เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้ มีการเข้าถึงหน้านี้ 1, 982 ครั้ง บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
ขจัดคราบจากผ้าขาว - wikiHow
- Honda civic 1. 8 e ภายใน 2018
- ธ อ ส พระราม 2
- วิธีขจัดคราบเหงื่อใต้รักแร้บนเสื้อผ้าสีขาว?
- Canon : คู่มือ Inkjet : G3010 series : ไดอะล็อกบ็อกซ์การตั้งค่า (สแกนเอกสาร)
- ประธานาธิบดีลาว - วิกิพีเดีย
- ลือสะพัด ว่าที่แคนดิเดต "นายกรัฐมนตรี" พรรคไทยรักษาชาติ เปิดชื่อมาสะเทือนทั้งแผ่นดิน [เลือกตั้ง 2562] | Thaiger ข่าวไทย
- เกม บ อย harvest moon man
- วิธีขจัดคราบขาวบนเสื้อผ้า ขจัดคราบผงซักฟอก ติดเสื้อ | 108Modify - YouTube
- ฮา เล่ ย์ เดวิด สัน 2010 relatif
- กิจกรรมสร้างสรรค์เด็กอนุบาล - GotoKnow
วิธีขจัดคราบเหงื่อใต้รักแร้บนเสื้อผ้าสีขาว? - ไม่ช้าก็เร็วแม่บ้านคนใดจะเผชิญกับคำถามดังกล่าวเพราะมันยากมากที่จะปกป้องเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบาจากการปรากฏของจุดสีเหลืองใต้รักแร้ ขั้นตอนการซักได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างมากจากการซักด้วยเครื่องซักผ้า แต่หลังจากการรักษาด้วยผงแล้วไม่สามารถกำจัดคราบเหงื่อบนเสื้อผ้าสีขาวได้เสมอไป เพื่อแก้ไขปัญหานี้ควรเตรียมอย่างละเอียด เพื่อรักษาความขาวและความบริสุทธิ์ของสิ่งต่าง ๆ คุณต้องใช้สูตรพิเศษ ที่สำคัญ!
สูตรสารฟอกขาว นำสารฟอกขาวชนิด คลอรีน บลีช Chlorine bleach มาผสมกับน้ำเปล่าตามขั้นตอนที่ฉลากกำกับไว้ แล้วแช่ผ้าขาวทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนนำไปซักคราบออกให้เกลี้ยงเกลา 6. สูตรแอมโมเนีย แอมโมเนียช่วยให้ผ้าขาวคุณขาวสะอาดได้เหมือนกัน โดยการผสมแอมโมเนียมาผสมกับน้ำเปล่าให้เจือจาง แล้วนำไปซักผ้าขาวพร้อมผงซักฟอก แต่มีข้อแม้ว่าอย่าผสมแอมโมเนียกับผงซักฟอกโดยตรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้ 7. สูตรกรดซาลิก หากผ้าขาวสะอาดเลอะคราบสนิมเหล็ก กำจัดคราบออกได้ โดยผสมกรดซาลิกประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง ป้ายส่วนผสมที่ได้ลงบนคราบแล้วขยี้ แต่ถ้ายังมีคราบสีหลงเหลืออยู่ แนะนำให้ซักด้วยแอมโมเนียซ้ำอีกครั้ง แต่วิธีนี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกรดซาลิกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังได้ 8. สูตรเบกกิ้งโซดา นอกจากเบกกิ้งโซดาจะช่วยทำความสะอาดบ้านได้แล้ว ยังทำให้ผ้าขาวเหมือนใหม่ได้อีกด้วย โดยการเทเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวงลงในน้ำผงซักฟอก ก่อนนำผ้าขาวมาซักทำความสะอาดตามปกติ ผ้าขาวของคุณก็จะขาวสะอาดเหมือนใหม่เลยล่ะ 9. สูตรบอแรกซ์และน้ำส้มสายชู สูตรนี้เรียกได้ว่าช่วยเพิ่มพลังกำจัดคราบได้อีกทางหนึ่ง เริ่มจากผสมบอแรกซ์ ½ ถ้วยตวงเข้ากับน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง เทผสมลงในน้ำผงซักฟอก ก่อนซักผ้าขาวตามปกติ 10.
วิธีขจัดคราบเหงื่อใต้รักแร้บนเสื้อผ้าสีขาว?
การกำจัดจุดสีเหลืองออกจากเหงื่อใต้วงแขนนั้นทำได้ง่ายกว่ามากโดยมีความสดใหม่และไม่ได้อยู่บนผ้าเป็นเวลานาน น้ำยาล้างจาน ทางออกแรกและง่ายที่สุดกว่าการขจัดคราบสีเหลืองจากเหงื่อใต้รักแร้บนเสื้อผ้าสีขาวแม่บ้านที่มีประสบการณ์สังเกตการใช้น้ำยาล้างจาน วิธีการทางเคมีในห้องครัวนี้ช่วยขจัดร่องรอยเลี่ยนออกจากจานได้อย่างสมบูรณ์แบบนอกจากนี้ยังมักใช้เมื่อมีคราบน้ำมันปรากฏบนเนื้อผ้า วิธีการใช้งาน: เตรียมชามตื้น ๆ เทน้ำ 200 มิลลิลิตรลงไป เติมของเหลว 10 มิลลิลิตรลงในน้ำแล้วคลุกเคล้าให้ทั่ว บนพื้นผิวเรียบให้กระจายสิ่งสกปรกหรือวางไว้ในแอ่งโดยมีจุดขึ้น ที่สำคัญ! สถานที่ที่ดีที่สุดในการทำเช่นนี้คือในห้องน้ำ เทส่วนผสมโฟมลงบนเสื้อโดยตรง ปล่อยให้สิ่งที่ประมวลผลเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในที่สุดล้างคราบที่เหลือด้วยสบู่ครัวเรือนทั่วไป ที่สำคัญ! โปรดจำไว้ว่าคราบบนเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบาอาจปรากฏขึ้นเพราะทำความสะอาดหรือนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสม. บางทีคุณอาจไม่ต้องการความพยายามพิเศษใด ๆ - เป็นเพียงแนวทางที่มีความสามารถ ก่อนทิ้งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวลงในเครื่องซักผ้าหรือทำการรักษาด้วยน้ำยาล้างคราบเปื้อนให้อ่าน วิธีล้างสิ่งขาว. สบู่ซักผ้า วิธีที่ได้ผลพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการขจัดคราบเหงื่อไคลสีเหลืองออกจากสิ่งที่ทำเองที่บ้านคือการใช้สบู่ในครัวเรือน ด้วยวิธีนี้คุณสามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าจากร่องรอยที่สดใหม่ไม่ดื้อรั้นมากนัก ในการต่อสู้กับคราบเหงื่อเก่าสบู่โชคไม่ดีที่จะไม่ให้ผลลัพธ์ใด ๆ ที่สำคัญ!
คราบมันเป็นคราบปราบเซียน เพราะน้ำเปล่าอาจทำให้คราบเลอะหนักกว่าเดิม หนึ่งในวิธีธรรมชาติที่ใช้ขจัดคราบมันได้ คือใช้ชอล์คสีขาว โดยเอามาขัดเบาๆ ที่ผ้า เพื่อซับน้ำมันออกจากผ้า [13] ปัดฝุ่นชอล์คส่วนเกิน แล้วค่อยเอาผ้าไปซักเครื่อง ซักน้ำเย็นเท่านั้น และห้ามเอาผ้าเข้าเครื่องอบ เพราะน้ำมันจะแห้งติด [14] วิธีการ 4 ของ 5: ขจัดคราบด้วยน้ำยาฟอกขาว น้ำยาฟอกขาวแบบ oxidizing กับ chlorine ต่างกันยังไง. น้ำยาฟอกขาวแบบ oxidizing จะไม่แรงเท่าสูตรคลอรีน เลยถนอมผ้ามากกว่า น้ำยาฟอกขาวแบบ oxidizing ที่พบบ่อยก็คือสูตร hydrogen peroxide คนนิยมใช้ขจัดคราบกัน ส่วนสูตรคลอรีนจะแรงกว่ามาก แถมเป็นพิษ ถ้าจะใช้ต้องระวังมากๆ [15] น้ำยาฟอกขาวสูตรคลอรีนใช้กัดสีผ้า แต่เราจะใช้กับผ้าขาว ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ถ้าใช้น้ำยาฟอกขาวซักเครื่องบ่อยๆ อาจจะมีคราบเหลืองติดผ้าขาวได้ [16] ลงน้ำยาฟอกขาวกำจัดคราบติดทนนาน. ถ้าคราบบนผ้าขาวของคุณนั้นติดแน่นทนนานเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้น้ำยาฟอกขาว แต่ใช้อย่างระวัง โดยทดสอบน้ำยาแค่จุดเล็กๆ ก่อน แล้วใช้คอตตอนบัดแต้มๆ ซับๆ น้ำยาที่ผ้าอีกฝั่ง ด้านหลังของคราบ [17] สุดท้ายคว่ำคราบลงบนผ้าเช็ดจาน [18] อย่าไปขยี้หรือบี้เนื้อผ้า พอใช้น้ำยาฟอกขาวแล้วก็เอาผ้าซักเครื่องได้ตามปกติ ต้องสวมถุงมือยางก่อนใช้น้ำยาฟอกขาวเสมอ 3 ผสมน้ำยาฟอกขาวตอนซักผ้า.
อีกวิธีที่ปลอดภัยน้อยกว่าหน่อย คือผสมน้ำยาฟอกขาวในเครื่องซักผ้าเลย เพื่อให้สีผ้าจางลง ช่วยขจัดคราบ ย้ำว่าต้องอ่านคำแนะนำที่ฉลากให้ละเอียดก่อนเสมอ ว่าต้องใส่น้ำยามากแค่ไหน สรุปคือต้องอ่านทั้งฉลากน้ำยาฟอกขาว และป้ายที่เสื้อผ้า จนแน่ใจว่าผ้าชนิดนั้นซักโดยผสมน้ำยาฟอกขาวได้ ที่สำคัญคือห้ามใช้กับผ้าไหมหรือผ้าขนสัตว์ [19] วิธีการ 5 ของ 5: ขจัดคราบด้วยแอมโมเนีย ผสมแอมโมเนียตอนซักผ้า. แอมโมเนียเป็นด่าง เหมาะสำหรับขจัดคราบมันและสิ่งสกปรก ใช้ได้เหมือนน้ำยาฟอกขาวเลย โดยผสมกับน้ำยาซักผ้าเล็กน้อย ปกติเป็นสารเคมีค่อนข้างแรงที่มักผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่จะซื้อแยกก็ได้ [20] "ห้าม" ผสมน้ำยาฟอกขาวกับแอมโมเนียเด็ดขาด เพราะจะเกิดปฏิกิริยา เป็นควันพิษอันตรายมาก [21] ใช้แอมโมเนียในห้องที่อากาศถ่ายเท อย่าลืมสวมถุงมือยางก่อนใช้ ใช้น้ำมันสนผสมแอมโมเนีย. ถ้าจะลงแอมโมเนียที่คราบโดยตรง ให้ผสมกบน้ำมันสนในสัดส่วนที่เท่ากัน แล้วจะได้น้ำยาทำความสะอาดแบบเห็นผล พอผสมได้น้ำยาไม่ต้องมากแล้ว ก็เทใส่คราบแล้วทิ้งไว้สักพักได้เลย ทิ้งไว้ได้นานถึง 8 ชั่วโมงแล้วค่อยซัก [22] หลังใช้น้ำยาสูตรนี้แล้ว ตอนจะซักครั้งแรก ย้ำว่าต้องแยกจากผ้าชิ้นอื่น แอมโมเนียเข้มข้นทำผ้าด่างหรือเนื้อผ้าเสียหายได้เลย [23] 3 ใช้ฟองน้ำชุบแอมโมเนียซับขจัดคราบติดทนนาน.
หากคุณใช้น้ำยาล้างคราบติดเชื้อที่รุนแรงสำหรับสิ่งที่เป็นสีขาวให้ค้นหา วิธีการขจัดคราบออกจากความขาว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความประหลาดใจใด ๆ ลำดับการประมวลผล: เตรียมถังเหล็กถังโลหะหรือภาชนะอื่นที่สามารถใส่ไฟสบู่ซักผ้า (ควรเป็น 72%) และเครื่องขูดโลหะ บนเครื่องขูดโลหะให้ใส่สบู่ซักแล้วใส่ลงในถังน้ำที่เท คนด้วยไม้จนกระทั่งสบู่ละลายในน้ำ ที่สำคัญ! เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคุณสามารถเพิ่มโซดาหรือแอมโมเนียเพิ่มเติมได้ ใส่น้ำสบู่ลงในผลิตภัณฑ์ที่คุณกำลังจะเดือด รอให้น้ำเดือดลดความเข้มเปลวไฟและเคี่ยวไฟประมาณหนึ่งชั่วโมง ที่สำคัญ! เนื้อหาของถังควรผสมกับไม้พายเป็นระยะ ไปที่เนื้อหา↑ วิดีโอสต็อก การใช้คำแนะนำง่าย ๆ จากบทความนี้และการรู้วิธีขจัดคราบเหงื่อใต้รักแร้การกำจัดคราบสกปรกออกจะง่ายมาก มองสิ่งต่าง ๆ เป็นระยะเพื่อดูคราบเหลืองที่น่าเกลียดจากเหงื่อ การระบุร่องรอยที่ทันเวลาจะช่วยให้คุณนำเสื้อผ้าของคุณไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและเป็นระเบียบและยืดอายุการสวมใส่ของพวกเขา หากเสื้อหรือเสื้อทำจากผ้าที่ละเอียดอ่อนราคาแพงและคุณกลัวที่จะทำลายมันให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญซักแห้ง เครื่องมือพิเศษจะช่วยคืนความงามในอดีตให้กับคุณในเชิงคุณภาพและมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของน้ำยาขจัดคราบสำเร็จรูปที่ใช้สารเคมี คือเห็นผลดีเป็นพิเศษ แต่ข้อเสียคือระคายเคืองผิว หลายคนเลยมองหาน้ำยาสูตรธรรมชาติมาใช้กัน ซึ่งเบคกิ้งโซดาก็เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่คนนิยมใช้ขจัดคราบกัน ถ้าใครมีติดบ้านก็หยิบมาใช้ได้เลย โดยผสมกับน้ำให้เป็น paste เหนียวข้น แล้วเอามาถูหรือขยี้เบาๆ ให้ซึมเข้าเนื้อผ้า [7] หรือใช้ร่วมกับน้ำส้มสายชูกลั่นขาวก็ได้ [8] ใช้น้ำมะนาว. น้ำมะนาวก็เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ช่วยขจัดคราบเหงื่อไม่พึงประสงค์จากเสื้อเชิ้ตและเสื้อยืดขาวได้ดี โดยเฉพาะคราบใต้วงแขน ให้ผสมน้ำเปล่าและน้ำมะนาวในสัดส่วนที่เท่ากัน จากนั้นนำไปขัดถูบริเวณที่เป็นคราบ [9] น้ำมะนาวกับเกลือก็กำจัดเชื้อราและคราบสนิมบนผ้าขาวได้ดี [10] ลองผสมน้ำมะนาวกับน้ำยาซักผ้าขาว ก็ช่วยให้ผ้ากลับมาหอมสะอาดได้ตามเดิม ใช้ไวน์ขาว. หนึ่งในหายนะที่เกิดกับเสื้อขาว คือไวน์แดงหกใส่ แต่เชื่อหรือไม่ว่าคุณแก้ได้ง่ายๆ โดยเทไวน์ทับลงไป ย้ำว่าคราวนี้เปลี่ยนเป็นไวน์ขาว แล้วค่อยๆ เทใส่คราบ รับรองช่วยขจัดคราบไวน์แดงได้แน่นอน [11] ให้ซับรอบๆ คราบด้วยผ้าเช็ดจาน เพื่อป้องกันไม่ให้คราบกินวงกว้าง [12] แค่ไวน์ขาวไม่ได้ช่วยขจัดคราบ แค่ทำให้ซักผ้าตามปกติแล้วสะอาดได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ใช้ชอล์คขาวถ้าเป็นคราบมัน.
น้ำยาล้างห้องน้ำ เพราะว่าน้ำยาล้างห้องน้ำประกอบด้วยสารเดียวกับน้ำยาซักผ้าขาว ดังน้ันการเลือกใช้น้ำยาล้างห้องน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสม ก็สามารถช่วยขจัดคราบบนเสื้อผ้าของเราได้เหมือนกัน สำหรับคราบเหลืองบริเวณปกคอเสื้อ หรือบริเวณรักแร้ สามารถผสมน้ำยาล้างห้องน้ำในปริมาณน้อยๆ แช่ไว้ซักครู่ คอยเช็คและขยี้ออกเบาๆ คราบจะออกได้อย่างดีเลย แต่อย่าลืมใส่ถุงมือนะคะ แล้วก็อย่าแช่นาน เดี๋ยวผ้าจะเป็นรูไปซะก่อน! 9. แอมโมเนีย ตัวช่วยของเราหลังจากเป็นลมนี่แหละ สามารถช่วยขจัดคราบบนผ้าได้ สำหรับสาวๆ สายศิลปิน ที่เพ้นท์สีน้ำมันหรืออะคริลิคจนเปื้อนเนื้อผ้า ให้ลองผสมแอมโมเนียลงในน้ำอุ่น จากนั้นแช่ผ้าลงไปสักพัก แล้วซักตามปกติ จะช่วยให้สีเจือจางได้ค่ะ โดยแอมโมเนียหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปราคาไม่แพงเลย 10 กว่าบาทเท่านั้นเอง 10. น้ำยาล้างเครื่องสำอาง สำหรับสาวๆ ที่แต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมีกันบ้างแหละที่เผลอเลอะคราบรองพื้น หรือว่าคราบลิปสติกกันบ้าง วิธีแก้ง่ายๆ ก็ให้ลองเทน้ำยาล้างเครื่องสำอางยี่ห้ออะไรก็ได้ที่เราใช้กันประจำลงบนสำลี หรือผ้าสะอาด แล้วซับๆ หรือเช็ดเบาๆ ลงบนบริเวณที่เลอะ ให้รอยออกหมดแล้วค่อยนำไปซักได้ตามปกติ 11.